วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2561

ข่าว10 พบสารเคมีต้องห้ามเมื่อเกือบ 40 ปีก่อน ตกค้างในส่วนลึกที่สุดของมหาสมุทรแปซิฟิก

พบสารเคมีต้องห้ามเมื่อเกือบ 40 ปีก่อน ตกค้างในส่วนลึกที่สุดของมหาสมุทรแปซิฟิก

มหาสมุทรแปซิฟิก

บทความเชิงวิชาการที่ตีพิมพ์ในวารสารวิวัฒนาการทางธรรมชาติและระบบนิเวศ (Nature and Ecology Evolution) ระบุว่าสารก่อมลพิษ PCBs และ PBDEs ที่ถูกพบปะปนอยู่ในระบบนิเวศใต้ทะเลลึกในปริมาณเข้มข้นทำให้นักวิทยาศาสตร์ต้องประหลาดใจ
สารเคมีเหล่านี้ถูกใช้อย่างกว้างขวางในช่วงศตวรรษที่ 20 ซึ่งหลังจากนั้นก็พบว่าเป็นพิษและสะสมในสภาพแวดล้อม
ดร.อลัน เจมีสัน และคณะวิจัยจากมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล ได้เก็บตัวอย่างจากเนื้อเยื่อไขมันของแอมฟิพอด (สัตว์น้ำที่มีเปลือกแข็งชนิดหนึ่ง) ที่อยู่ลึกลงไปใต้ผิวน้ำในมหาสมุทรแปซิฟิก โดยใช้ยานดำน้ำสำรวจพื้นมหาสมทุรที่ออกแบบมาพิเศษ ปล่อยจากเรือที่ลอยอยู่เหนือร่องน้ำมารีอานา และเคอร์มาเดค ลึกลงไป 10 กิโลเมตร และห่างกัน 7,000 กิโลเมตร
แอมฟิพอด ถูกนำขึ้นมาจากร่องน้ำเคอร์มาเดคและมารีอานา ในมหาสมุทรแปซิฟิก
สารที่ไม่ย่อยสลาย
สารก่อมลพิษที่พบในตัวแอมฟิพอด รวมถึง โพลีคลอรีเนต ไบเฟนิล (PCBs) และโพลีโบรมิเนต ไดเฟนิล เอเธอร์ (PBDEs) ซึ่งใช้ในการผลิตฉนวนสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และวัสดุทนไฟ
รัฐบาลสหรัฐฯ ได้สั่งห้ามการผลิต PCB เมื่อปี 1979 และในปี 2001 ก็มีการลงนามในอนุสัญญาสต็อกโฮล์มว่าด้วยสารมลพิษที่ตกค้างยาวนาน (Stockholm Convention on Persistent Organic Pollutants)
แต่ปริมาณการผลิตสาร PCBs ทั่วโลก จากช่วงปี 1930 จนถึงที่ถูกสั่งห้ามในปี 1970 คาดว่าจะมีถึง 1.3 ล้านตัน ซึ่งสารที่ถูกปล่อยสู่สภาพแวดล้อมทั้งจากอุบัติเหตุในอุตสาหกรรม และการไหลซึมจากกองขยะ สามารถทนทานต่อการย่อยสลายตามธรรมชาติได้ ทำให้ยังคงตกค้างอยู่ในสภาพแวดล้อม และในผลการศึกษาระบุว่า ยากที่จะขยายขอบเขตการวิเคราะห์ระดับการปนเปื้อนของสารที่พบบริเวณพื้นมหาสมุทรแปซิฟิก โดยสาเหตุส่วนหนึ่ง มาจากการใช้วิธีวัดค่าและเก็บข้อมูลสารปนเปื้อนที่ต่างกันในผลศึกษาก่อนหน้านี้
พบสารเคมีในห่วงโซ่อาหาร
รายงานระบุด้วยว่า ระดับสาร PBCs พี่พบในร่องน้ำลึกมารีอานา สูงกว่าที่พบในตัวปูจากบริเวณทุ่งนาที่รับน้ำจากแม่น้ำเลี่ยวเหอ ซึ่งเป็นหนึ่งในแม่น้ำที่มีมลพิษมากที่สุดในจีน โดย ดร.เจมีสัน กล่าวว่า "แอมฟิพอด ที่เก็บตัวอย่างได้ มีระดับสารพิษปนเปื้อน มากพอ ๆ กับในอ่าวซูรุกะ ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหนึ่งในเขตอุตสาหกรรมที่มีมลภาวะสูงที่สุดของทางตะวันตกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิก"
มหาสมุทรแปซิฟิก
นักวิจัยคาดว่า สาร PCBs และ PBDEs ไหลลงไปสะสมอยู่ในร่องน้ำของมหาสมุทรแปซิฟิก พร้อมกับขยะพลาสติกปนเปื้อนและซากสัตว์ที่จมลงสู่ใต้ทะเล ซึ่งต่อมากลายเป็นอาหารของแอมฟิพอดและสัตว์ทะเลน้ำลึกอื่น ๆ โดยคณะผู้เขียนรายงานผลการศึกษา ระบุว่า เบื้องลึกของมหาสมุทร อาจกลายเป็น "อ่างเก็บ" หรือแหล่งรวมสารมลพิษได้ นอกจากนี้ ก็ให้เหตุผลว่า สารเคมีจะสะสมอยู่ในห่วงโซ่อาหาร ซึ่งเมื่อจมลงถึงระดับน้ำลึกในมหาสมุทร ความเข้มข้นก็จะสูงกว่าที่บริเวณใกล้ผิวน้ำ
ด้านเคเธอรีน แดฟฟอร์น แห่งมหาวิทยาลัย นิวเซาท์ เวลส์ ในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งไม่ได้มีส่วนร่วมในการศึกษาชิ้นนี้ กล่าวว่า "แม้คณะนักวิจัย จะสามารถวัดความเข้มข้นของสาร PCBs และ PBDEs ได้ในตัวสัตว์น้ำเปลือกแข็งที่อยู่บริเวณร่องน้ำลึกในมหาสมุทร แต่ก็ยังไม่มีข้อมูลมากนักในแง่แหล่งที่มา และกลไกของการไหลมารวมกันบริเวณนี้ และยิ่งไปกว่านั้น ผลกระทบที่เป็นพิษของสารเหล่านี้ ซึ่งอ้างว่ามีแนวโน้มที่จะเกิดการเพิ่มปริมาณทางชีวภาพสู่ห่วงโซ่อาหาร ก็ยังรอการทดสอบอยู่" แต่อย่างน้อย ผลการศึกษานี้ก็ "เป็นหลักฐานว่าส่วนที่ลึกลงไปของมหาสมุทร ไม่ใช่ส่วนที่อยู่ห่างไกลออกไป กลับมีความเชื่อมโยงกับผิวน้ำด้านบน และยังได้รับสารมลพิษที่ก่อโดยมนุษย์ในปริมาณเข้มข้นด้วย"


ที่มา:https://www.bbc.com/thai/international-39057387

วันเสาร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2561

ข่าว 09 เร่งกู้สารเคมีรั่วไหลเหตุรถคว่ำ หวั่นไหลลงทะเล

เร่งกู้สารเคมีรั่วไหลเหตุรถคว่ำ หวั่นไหลลงทะเล

เร่งกู้สารเคมีรั่วไหลเหตุรถคว่ำ หวั่นไหลลงทะเล


30 พ.ย. - เจ้าหน้าที่ของบริษัท ไทย ทีจีซีไอ.เรซิ่นคอป ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมืองระยอง เข้าเก็บกู้สารเรซิ่นเหลวที่รั่วไหลลงสู่ลำรางระบายน้ำของนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด บริเวณสี่แยกสวนภูมิรักษ์ ถนนไอ 1 ภายในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด
หลังจากเมื่อเช้านี้ เวลาประมาณ 07.30 น. เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกหกล้อ ทะเบียน 74 - 5070 กรุงเทพมหานคร ซึ่งบรรทุกสารเรซิ่นเหลว น้ำหนัก 6 ตัน จากโรงงาน ไทย ทีจีซีไอ.จะไปส่งที่โรงงานย่านบางนา กรุงเทพมหานคร พลิกตะแคง ทำให้สารเรซิ่นเหลวที่บรรจุในแกลลอนจำนวนหนึ่งเกิดรั่วไหลลงสู่ลำรางระบายน้ำดังกล่าว คาดว่าการเก็บกู้สารเคมีดังกล่าวจะแล้วเสร็จในช่วงบ่ายวันนี้ สำหรับสารเรซิ่นเหลว เป็นสารขั้นต้นในการผลิตฉนวนใยแก้ว เป็นสารที่มีสีน้ำตาลเข้มและมีกลิ่นเหม็น - สำนักข่าวไทย

ที่มา:https://www.sanook.com/news/1076064/

ข่าว 08 สารเคมีกัดสีผมรั่ว ซ.รามฯ 104 อพยพคนวุ่น

สารเคมีกัดสีผมรั่ว ซ.รามฯ 104 อพยพคนวุ่น

สารเคมีกัดสีผมรั่ว ซ.รามฯ 104 อพยพคนวุ่น

เกิดเหตุสารเคมีที่ใช้ทำน้ำยากัดสีผมของโรงงานใน ซ.รามคำแหง 104 รั่ว ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องอพยพประชาชนที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงเป็นการด่วน
เจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษ กรุงเทพมหานคร เร่งฉีดน้ำทำลายสารเคมีที่นำไปใช้ทำน้ำยากัดสีผม หลังเกิดสารเคมีไฟร์โซเดียมซัลเฟตกว่า 500 ลัง รั่วในโกดังเก็บสินค้า ซึ่งดัดแปลงมาจากอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ในซอยรามคำแหง 104 เจ้าหน้าที่ต้องสวมชุดป้องกันเข้าไปฉีดน้ำควบคุมการระเหยของสาร และกั้นพื้นที่ภายในซอยเป็นพื้นที่อันตราย พร้อมอพยพประชาชนออกทั้งหมด เนื่องจากหากสูดดมจะส่งผลกระทบต่อปอดและระบบทางเดินหายใจ มีอาการแสบตา มึนศีรษะ และคันตามผิวหนัง โดยจากการวัดระดับพบว่าอยู่ในระดับ 6 ถือว่าเป็นอันตราย แต่ยังไม่ถึงขั้นรุนแรง นอกจากนี้ ยังแจกหน้ากากป้องกันการสูดดมสารเคมีโดยตรงให้ประชาชนที่อาศัยในละแวกใกล้เคียง
ที่ตั้งของโรงงานยังอยู่ฝั่งตรงข้ามโรงเรียนโสมาภานุสสรณ์ ทางโรงเรียนจึงสั่งปิดและอพยพเด็กนักเรียนชั้นอนุบาล 1 ถึง ป.6 ออกจากพื้นที่ และแจ้งผู้ปกครองมารับกลับ ส่วนวันพรุ่งนี้ (23 ก.ย.) จะสามารถเปิดการเรียนการสอนได้หรือไม่ ต้องรอคำยืนยันจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุข

ที่มา:https://www.sanook.com/news/968371/

ข่าว 07 คันดินสะพานนวลฉวีพัง สารเคมีรั่ว อพยพวุ่น!

คันดินสะพานนวลฉวีพัง สารเคมีรั่ว อพยพวุ่น


คันดินสะพานนวลฉวีพัง สารเคมีรั่ว อพยพวุ่น!

(26 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เกิดเหตุคันดินบริเวณสะพานนนทบุรี หรือสะพานนวลฉวี ฝั่งแยกสวนสมเด็จ จ.ปทุมธานี เกิดรอยรั่วความยาวประมาณ 3 เมตร ส่งผลให้น้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ดังกล่าว
นอกจากนี้น้ำยังเข้าท่วมโรงงานย่านถนนติวานนท์ ใกล้สะพานนวลฉวี ทำให้เกิดสารเคมีจากโรงงานรั่วไหลปะปนกับน้ำ มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการสูดดมสารพิษ 4 ราย เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลชลประทานแล้ว ขณะที่พื้นที่ที่เกิดเหตุ มีบ้านเรือนประชาชนประมาณ 25 หลังคาเรือน ซึ่งได้มีการอพยพออกจากพื้นที่แล้วทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นกลิ่นสารเคมีที่รั่วไหลเริ่มเจือจางลงไปบ้างแล้ว แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังคงต้องรอให้สารเคมีอยู่ในระดับปลอดภัย ก่อนจะเข้าดำเนินการซ่อมแซมคันดินที่เสียหายบริเวณสะพานนวลฉวีต่อไป

ที่มา:https://www.sanook.com/news/1066434/

ข่าว 06 สารเคมีรั่วโรงงานฟอกยีนส์ หาม 20 คนงานส่งรพ.

สารเคมีรั่วโรงงานฟอกยีนส์ หาม 20 คนงานส่งรพ.


สารเคมีรั่วโรงงานฟอกยีนส์ หาม 20 คนงานส่งรพ.

(6 เม.ย.) เมื่อเวลา ประมาณ 09.50 น. รับแจ้งเกิดเหตุ สารเคมีรั่วไหลจาก โรงงานฟอกยีนส์ บริเวณถนนสาย 345 บางคูวัด อ.เมืองปทุมธานี ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานฟอกยีนส์ ของ บริษัท วี.อาร์.วอชชิ่ง จำกัด เจ้าหน้าที่ต้องเร่งนำคนงาน ออกมาจากภายในโรงงาน จำนวน 20 กว่าคน ซึ่งส่วนใหญ่มีอาการคลื่นไส้ เวียนหัว และอาเจียน นำส่งโรงพยาบาลปทุมธานี จากการสอบถามเจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.เมืองปทุมธานี เปิดเผยว่า ได้รับแจ้ง เกิดเหตุดังกล่าว จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เบื้องต้นทราบว่า เกิดจากความผิดพลาดของการต่อท่อภายในโรงงาน จึงทำให้เกิดสารเคมีรั่วไหลออกมา แต่ยังไม่สามารถระบุถึงสาเหตุ และเป็นสารเคมีชนิดใดได้ เนื่องจาก ยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบภายในโรงงานได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการลำเลียงคนงาน ออกมาจากโรงาน เพื่อนำส่งโรงพยาบาล ส่วนผู้เสียชีวิตนั้น ยังไม่ได้รับรายงานแต่อย่างใด
จากการสอบถาม นางสาวทัศวรรณ วงศ์คำซาว์ ผู้จัดการฝ่ายบุคคล ได้แจ้งว่า เมื่อช่วงเช้าได้มีรถบรรทุกสารเคมี สำหรับฟอกยีนส์ นำมาส่งให้ภายในโรงงาน ขณะที่นำสารเคมีเข้าถังเก็บ ซึ่งมีการสั่งสารเคมี จำนวน 2 ตัว แต่คนขับรถได้ต่อท่อเข้าถังเก็บผิดถัง ทำให้สารเคมีเกิดทำปฏิกิริยา มีกลุ่มควันสีขาวพวยพุ่งออกมาจำนวนมาก ทำให้คนงานที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุเกิด มีอาการหมดสติไป จึงนำส่ง ร.พ.ดังกล่าว ส่วนภายในโรงงาน ขณะนี้ได้ปิดทำการชั่วคราว
ความคืบหน้า กรณีเกิดเหตุสารเคมีรั่วไหลจากโรงงานฟอกยีนส์ บริเวณ ถ.สาย 345 บางคูวัด อ.เมืองปทุมธานี ซึ่งที่เกิดเหตุเป็น โรงงานฟอกยีนส์ ของ บริษัท วี.อาร์.วอชชิ่ง จำกัด โดยมีคนงาน จำนวน 20 กว่าราย มีอาการคลื่นไส้ เวียนหัว และอาเจียน เนื่องจาก สูดดมสารเคมีเข้าไป เบื้องต้น จากการตรวจสอบ พบว่า สาเหตุที่เกิดขึ้น เนื่องจากเป็นการเทน้ำยาที่ใช้ในการบำบัดน้ำเสีย ลงไปในตัวเครื่องที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังของโรงงาน ซึ่งตัวเครื่องเป็นสนิม จึงทำให้เกิดการรั่วไหล จึงทำให้ส่งกลิ่นไปทั่วทั้งโรงงาน และมีคนงานได้รับบาดเจ็บดังกล่าว โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการล้างเครื่องบำบัดน้ำเสียดังกล่าวแล้ว และสามารถควบคุมสถานการณ์ได้เรียบร้อยแล้ว ขณะที่ ทางโรงงานได้หยุดพักการทำงาน โดยให้คนงานเข้าทำงานในช่วงบ่ายนี้

ที่มา:https://www.sanook.com/news/1110352/



ข่าว 05 รัสเซียเร่งตรวจสอบ แม่น้ำใกล้โรงงานนิกเกิลกลายเป็นสีเลือด


รัสเซียเร่งตรวจสอบ แม่น้ำใกล้โรงงานนิกเกิลกลายเป็นสีเลือด



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสิ่งแวดล้อมของประเทศรัสเซีย กำลังพยายามหาสาเหตุว่าทำไม แม่น้ำดัลดีคาน ซึ่งอยู่ใกล้กับ โรงงานอุตสาหกรรมของโรงงานนิกเกิลที่อยู่ใกล้เคียง



ข่าว 04 ระทึก! สารเคมีในโรงงานรั่ว พนักงานหนีตายอลหม่าน

ระทึก! สารเคมีในโรงงานรั่ว พนักงานหนีตายอลหม่าน

ระทึก! สารเคมีในโรงงานรั่ว พนักงานหนีตายอลหม่าน

เกิดเหตุสารเคมีในโรงงานรั่ว พนักงานวิ่งหนีตาย เจ้าหน้าที่เข้าระงับเหตุเอาไว้ได้ทัน จากเหตุการณ์นี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด
เวลา 11.00 น. วันที่ 25 ต.ค. 60 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยไตรคุณธรรมว่า มีเหตุสารเคมีรั่วไหล บริษัทไทยเมกิ 2012 จำกัด เลขที่ 700/676 ม.7 ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมือง จ.ชลบุรี  มีพนักงานจำนวนมาก จึงรุดไปตรวจสอบทีเกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานเคลือบโลหะที่แท็งก์เก็บสารเคมีภายในโรงงาน มีสารสีเหลืองมีกลิ่นเหม็น พนักงานจำนวนกว่า 130 คน วิ่งหนีตายออกมานอกโรงงาน บางรายมีที่สูบดมเข้าไปมีอาการหน้ามืดเวียนหัว เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลเป็นการเร่งด่วน
จากการสอบตรวจพบว่าสารเคมีดังกล่าวเป็นกรดไนตริกเป็นของเหลวไม่มีสี กลิ่นฉุนรุนแรง และมีความเป็นกรดสูง จึงอาจเป็นอันตรายต่อผิวหนังและผู้ที่สูดดม เบื้องต้นตอนนี้ทางโรงงานสามารถควบคุมการรั่วไหลได้แล้ว จากเหตุการณ์นี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด

ที่มา:https://www.sanook.com/news/4003938/